ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชตรา “มรกต” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการขวดพลาสติกประเภท PET กับบริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด ผู้ให้บริการจัดการขยะรีไซเคิลแบบครบวงจร
Eco Factory
บริษัท เอสดี กัทธรี อินเตอร์เนชั่นแนล มรกต จำกัด (มหาชน)
โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนโครงการผ่านค่าใช้จ่ายการจัดการขวดพลาสติกประเภท PET (Polyethylene Terephthalat ♳) เพื่อนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิลใหม่อีกครั้ง ตามนโยบายบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นด้าน Circular Economy
ด้วยขวดของน้ำมันพืช ตรา “มรกต” ที่จัดจำหน่าย ในปัจจุบัน เป็นพลาสติกประเภท PET ที่สามารถนำมา Recycle ได้ บริษัทฯตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการหมุนเวียนวัสดุพลาสติกที่มีอยู่ในระบบให้มีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ผลการดำเนินโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 – 30 พ.ย. 2565 คิดเป็นปริมาณขวดพลาสติก PET ทั้งหมด 43,266.396 กิโลกรัม
ปี 2565 | ปริมาณขวดพลาสติก PET (กิโลกรัม) | คิดเป็นสัดส่วนปริมาณที่เก็บ ได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า (%) |
---|---|---|
เมษายน | 3544.10 | |
พฤษภาคม | 4,080.07 | 15% |
มิถุนายน | 4,486.56 | 10% |
กรกฎาคม | 4,782.56 | 6.6% |
สิงหาคม | 5,352.66 | 12% |
กันยายน | 6,287.846 | 17% |
ตุลาคม | 6,944.89 | 10% |
พฤศจิกายน | 7,787.71 | 12% |
รวมทั้งสิ้น | 43,266.396 |
โดยในระยะเวลา 8 เดือนตั้งแต่เริ่มโครงการมามีการรับขวดพลาสติกประเภท PET แล้วมากถึง 43,266.396 กิโลกรัม โดยเทียบเป็นสัดส่วนการลดคาร์บอนไดออกไซด์ จำนวน 124,840.859 kg CO2 eq. หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้จำนวนกว่า 13,141 ต้น และจากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ ก่อนเริ่มโครงการมีจำนวนผู้เข้าร่วมส่งขวดพลาสติก PET ทั้งหมด 589 คน ในเดือนเมษายน หลังจากที่ บริษัท เอสดี กัทธรี อินเตอร์เนชั่นแนล มรกต จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับบริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด ส่งผลให้เกิดความสนใจในการแยกและจัดการขวดพลาสติก PET และขยะประเภทอื่นๆอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้คนให้ความสนใจในการส่งทั้งขวดพลาสติก PET และขยะรีไซเคิลประเภทอื่นๆมากขึ้นถึงกว่า 100 คนต่อเดือน ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสังคมให้ความตระหนักถึงการแยกและจัดการขยะรีไซเคิลมากขึ้น และต้องการที่จะสร้างสังคมไร้ขยะขึ้นในอนาคตไปพร้อมๆกัน
ทางบริษัท เอสดี กัทธรี อินเตอร์เนชั่นแนล มรกต จำกัด (มหาชน)
เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดการขวดพลาสติกประเภท PET ที่สามารถรีไซเคิลได้
ให้ได้มีการจัดการได้อย่างยั่งยืนในสังคมไทย